เนื้อหา
สับปะรดสี ไม้ปลูกประดับสวนที่กำลังได้รับความนิยม จากสีสันสวยงามสะดุดตา ปลูกและดูแลรักษาง่าย
สับปะรดสีเข้ามาในประเทศไทยกว่า 40 ปี โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่แถว ๆ อเมริกากลางไปจนถึงอเมริกาใต้ เป็นไม้ประดับประเภทมีกลีบดอก 3 กลีบ ซึ่งมีทั้งสี ขาว ม่วง ฟ้า
สำหรับสับปะรดสีหรือบรอมีเลียดจัดว่าเป็นต้นไม้ยอดนิยมต้นหนึ่งเลยค่ะ ไม่ว่าจะนำมาจัดสวนก็เข้ากันได้กับสวนทุกแบบหรือปลูกเลี้ยงไว้ดูความสวยงามก็ได้ วิธีปลูกสับปะรดสีไม่ยากเลย เพียงแต่ต้องเข้าใจลักษณะนิสัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมของสับปะรดสีเสียก่อน ซึ่ง คุณมนูญ เจียมจรัสรังษี นักปลูกเลี้ยงสับปะรดสีให้คำแนะนำดังนี้
1. สภาพแวดล้อม
สับปะรดสีเจริญเติบโตได้ดีในสภาพชื้นแต่ไม่แฉะ ต้องการแสงมากแต่ต้องไม่ร้อน ถ้าเป็นไปได้ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแดดครึ่งวันเช้า สามารถปลูกกลางแจ้งได้ แต่ในช่วงฤดูร้อนควรพรางแสงให้ร่มขึ้น โดยใช้ตาข่ายสีฟ้าขึงอีกชั้นเพื่อช่วยตัดแสงที่ส่องลงมา ป้องกันอาการใบไหม้ได้
2. น้ำ
โดยธรรมชาติของพืชกลุ่มนี้ไม่ต้องการน้ำมาก เครื่องปลูกต้องชื้นกำลังดีไม่แฉะเกินไป หากใช้น้ำประปารดควรขังน้ำทิ้งไว้สองวัน เพื่อให้คลอรีนระเหยออกหมดก่อน เพราะหากน้ำไปขังบริเวณปลายใบ สารคลอรีนจะกัดใบทำให้ใบไหม้เป็นสีน้ำตาลได้ ไม่ควรรดน้ำลงบนยอดโดยตรง เพราะมีผลต่อการแตกยอดอ่อนได้
3. วัสดุปลูก
ใช้รากชายผ้าสีดา กาบมะพร้าวสับหรือขี้เลื่อยที่แช่น้ำไว้สามวันให้ยางออกหมดก่อน (เพื่อป้องกันอาการเน่าคอดิน) ผสมกับถ่านและอิฐมอญทุบ และให้ปุ๋ยละลายช้าได้ ยกเว้นตระกูลเดียวคือ บรอมีเลียดนีโอเนเจลยา ไม่ควรให้ปุ๋ยเลย เพราะจะทำให้ใบยืดยาวเสียรูปทรง
4. การขยายพันธุ์
นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ ใช้มีดหรือกรรไกรตัดกิ่งตัดให้ชิดโคนหน่อ อาจใช้ปูนแดงหรือยากันราป้ายบริเวณรอยตัด ทิ้งไว้ประมาณสองสัปดาห์จึงปลูกลงในกาบมะพร้าวสับซึ่งควรเป็นกาบมะพร้าวของเดิมนิดหน่อยผสมกับของใหม่ เสร็จแล้วรดน้ำหนึ่งครั้งและทิ้งไว้หนึ่งสัปดาห์ จึงรดน้ำซ้ำ
ที่มา : http://www.kokomax.com/product-th-595676-2759230-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5.html
ภาพสับปะรดสีที่ทำจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ต